อีกหนึ่งทางเลือกในการรับส่งเงินต่างประเทศ

หรือนี่จะเป็นตัวเลือกใหม่แทนที่ระบบเดิมที่ให้บริการรับโอนเงินต่างประเทศผ่านธนาคารโดยใช้ระบบที่เรียกว่า SWIFT ซึ่งใช้เวลายืนยันธุรกรรม 2-3วัน แต่ด้วยเทคโนโลยีบล็อคเชนบน bitcoin จะช่วยให้การรับส่งเงินทำได้แทบจะทันที และที่สำคัญค่าธรรมเนียมถูกแสนถูก จนอาจจะฟรีเลย

Lightning Labs

บริษัท start up Lightning Labs ได้ประกาศออกมาว่าพวกเค้าได้เริ่มเครือข่ายที่เรียกว่า Taro protocal เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกำหนดเส้นทางการเงิน fiat-pegged stablecoins และสินทรัพย์อื่นๆ โดยใช้สถาปัตยกรรมของ bitcoin 

เครือข่าย Taro ใช้ Lighting บิทคอยที่สร้างบนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อคเชนนี้เป็น layer 2 เพื่อรอบรับปริมาณการทำธุรกรรมที่มีขนาดมหาศาล ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีความปลอดภัย

“มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนไม่รู้จริงๆ ว่าระบบบัตรเครดิตทำงานอย่างไร – และมันใช้งานได้จริง” Elizabeth Stark ซีอีโอของ Lightning Labs กล่าวกับ CNBC

โดยทั่วไปแล้ว แพลตฟอร์มการชำระเงิน ‘เลเยอร์สอง’ นี้จะทำให้การใช้จ่ายและรับ bitcoin ง่ายขึ้น แต่ Lightning Labs ได้ตัดสินใจขยายกรณีการใช้งานของเทคโนโลยีนี้ไปยังเงินสดเสมือนประเภทอื่นๆ

ทำงานอย่างไร

ให้เรานึกถึงบิทคอยน์ที่สามารถรับส่งเหรียญกันได้ทั่วโลก มีความรวดเร็วและความปลอดภัย แต่ณปัจจุบันราคาของเหรียญยังไม่มีความเสถียร ที่จะเหมาะมาเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยผู้คนยอมรับได้ทั่วไป แต่เทคโนโลยีบล็อคเชนนี้ พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัย ยังไม่เคยถูกแฮคระบบได้

แต่ยังมีข้อจำกัดในด้านค่าธรรมเนียมที่สูงและถ้ามีการทำธุรกรรมจำนวนมาก จะทำให้การรับส่งนั้นช้าไป ถ้าอยากรับไว้ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แพงขึ้นมา จึงมีนักพัฒนาสร้างเครือข่าย lighting ขึ้นมาทำงานเป็น layer 2 ของบิทคอยอีกที โดยที่ปัจจัยสำคัญของเครือข่ายนี้ บน Lightning Network ผู้เข้าร่วมทุกคนในเครือข่ายไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย โหนดจะตรวจสอบเฉพาะธุรกรรมที่มีการโต้ตอบโดยตรงเท่านั้นและสามารถทำธุรกรรมหลายแสนรายการต่อวินาทีบน Lightning

และ lighting lab ได้ประกาศว่าเครือข่าย Taro นี้จะนำเอาเทคโนโลยี Lightning network มาใช้สำหรับเงิน fait , stablecoin และเหรียญอื่นๆ ซึ่งเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับโลกเทคโนโลยีและการเงิน

Lightning Labs ซึ่งประกาศด้วยว่าได้ระดมทุน 70 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุน Series B นำโดย Valor Equity Partners ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนของ Tesla และ SpaceX ในช่วงต้นกล่าวว่ากำลังเปิดตัวข้อกำหนดทางเทคนิคสำหรับโปรโตคอล Taro เพื่อให้สามารถรวมข้อเสนอแนะจากนักพัฒนา