เมื่อผู้เขียนบทความเคยเป็นเด็กในยุค 80 ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเราสามารถเล่น Super Mario Brothers ที่บ้านได้ โดยไม่ต้องไปต่อคิวรอเล่นเกมที่ชื่นชอบในร้านเกมอีกแล้ว จะเล่นสักกี่ครั้งก็ได้ เริ่มใหม่กี่รอบก็ได้ราวกับมีเหรียญให้หยอดตู้เกมใหม่อยู่เรื่อยๆ

ในขณะเดียวกันพ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่ได้ชอบที่เห็นเรานั่งหน้าทีวีเล่นเกมตลอด คุณอาจจะคิดว่าเราโตมาท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ พ่อแม่เราก็น่าจะเบาใจหน่อยเรื่องการเล่นเกมของลูก ๆ แต่อย่างไรก็ตามพ่อแม่ก็คือพ่อแม่

ทางผู้เขียนบทความก็เข้าใจในเรื่องนี้ มันดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้นจากการที่ลูก ๆ ของเราเล่นเกม แต่จากการวิจัยพิสูจน์ได้ว่าการเล่นเกมนั้นฝึกทักษะหลาย ๆ อย่างในการใช้ชีวิต เช่น ทักษะการตัดสินใจ และการใช้สมองตามที่มหาวิทยาลัยจอร์เจียศึกษาในปี 2022

ฉะนั้นหลังจากนี้เมื่อคุณเห็นลูกของคุณเล่นเกม ลองคิดภาพดูว่าทักษะการเล่นเกมเหล่านี้จะช่วยพวกเขาได้ในโลกความเป็นจริง  เรามาดูกันว่าเกมนั้นสอนอะไรเราบ้าง

ตัวอย่างเช่น

     1.สหสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ (Eye-hand coordination) เป็นทักษะที่ช่วยให้เด็กขี่จักรยานหรือหยิบจานก่อนที่มันจะตกจากโต๊ะอาหาร เกมบางเกมต้องการให้ใช้ทักษะการตอบสนองที่ฉับไวซึ่งทำให้สามารถสร้างทักษะนี้ได้ เช่นเกมอย่าง Guitar Hero, Beat Saber หรือ Geometry Dash และจากการศึกษาพบว่าเกมเมอร์สามารถมีทักษะการใช้ประสาทสัมผัส (Sensorimotor Skill) ได้เร็วกว่าคนที่ไม่ใช่เกมเมอร์ และการเล่นเกมยังสามารถเพิ่มทักษะให้กับศัลยแพทย์ได้ด้วย

     2.ทักษะการบริหารเงิน (Financial literacy) เกมหลายเกมในปัจจุบันมีสิ่งที่เรียกว่า In-game currency ซึ่งนั่นคือหน่วยเงินในเกมนั่นเอง เช่น เกม Fortnite มีเงิน Vbuck และ Roblox มีเงิน Robux ซึ่งผู้เล่นสามารถซื้อเงินเหล่านี้ได้ด้วยด้วยเงินจริง หรือในบางเกมเงินนั้นสามารถหาได้จากการเล่นเกมเท่านั้น ลองถามลูกของคุณว่าพวกเขาตัดสินใจในการใช้เงินพวกนี้อย่างไร เช่น ลองถามดูว่าพวกเขาเคยผิดหวังที่ซื้อของในเกมด้วยเงินในเกมไหมแล้วพวกเขามีวิธีการจัดการปัญหานี้ยังไง บางเกมยังสามารถใช้การแก้ปัญหาแบบในโลกจริงแก้ปัญหาได้ เช่น ขายไอเทมในเกมในราคาที่ต่ำกว่าเดิมหรือเอาไปแลกอะไรซักอย่างที่ราคาใกล้เคียงกัน ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการสอนลูกเรื่องทักษะการบริหารเงิน แม้จะเป็นวิธีที่ไม่ได้ตามแบบแผนก็ตาม

     3.การสื่อสารและทีมเวิร์ค เกมสวมบทบาท (Role-playing game) หลายเกมเช่น World of Warcraft ต้องการการ Teamwork กับผู้เล่นคนอื่นเพื่อทำภารกิจให้ผ่าน การฝึกฝนทีมเวิร์คในสถานการณ์ที่ความกดดันต่ำเช่นในเกมเป็นการช่วยให้เด็กเรียนรู้เรื่องการทำงานเป็นทีม อะไรที่ใช้ได้และไม่ได้ เกมเช่น Among Us ที่ผู้เล่นต้องใช้ทักษะการสื่อสารเพื่อหาว่าใครเป็น Imposter อีกเรื่องหนึ่งคือเมื่อคุณฟังลูกของคุณเล่าถึงเกมที่พวกเขาเล่น ลองฟังถึงประสบการณ์ของลูกที่เจอ ดูว่าเป็นเกมที่เหมาะสมกับวัยหรือไม่

     4.ทักษะการเขียนโค้ดพัฒนาโปรแกรม เกมอย่าง Minecraft มีฟีเจอร์ที่จะให้ผู้เล่นสามารถแก้ไขตัวเกมได้ผ่านการเขียนโปรแกรม ฉะนั้นจากสถิติแล้วงานสายการพัฒนาเกมนั้นการว่างงานแทบเป็นศูนย์โดยอ้างอิงจากบทความใน Tech Crunch และงานที่ต้องใช้ทักษะการเขียนโค้ดมีรายได้มาตรฐานอยู่ที่มากกว่า 22,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ถ้าหากลูกของคุณสนใจในเรื่องการเขียนโค้ด ก็สามารถเรียน Online ได้หรือจากในมหาวิทยาลัยก็ได้เช่นกัน

     5.ความอดทน การที่เด็กเล่นเกมนั้น เด็กย่อมเล่นเกมแพ้เป็นเรื่องปกติ การเรียนรู้จากการที่ผิดพลาดไปทำให้เงินการจุดประกายความวิริยะอุตสาหะในตัวเด็กได้ มีการศึกษาพบว่าเมื่อเล่นเกมจนชนะหรือผ่านไปด่านต่อไปได้จะช่วยพัฒนาเซนส์ของความรู้สึกสำเร็จและความภาคภูมิใจได้ ลองถามลูกของคุณที่เล่นเกมจบทั้งเกมดูสิ พวกเขาจะตื่นเต้นที่จะเล่าให้คุณฟัง ความตั้งใจของพวกเขาที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจและช่วยสอนว่าถ้าไม่ยอมแพ้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีตอบแทน ลองบอกพวกเขาว่าลองเอาการที่ไม่เคยยอมแพ้ในเกมนั้นมาใช้ในโลกจริงก็จะเป็นการช่วยให้สามารถก้าวผ่านอุปสรรคที่ยากได้

ครั้งหน้าถ้าคุณคิดว่าลูกของคุณจะเสียเวลาไปกับการเล่นเกม ลองตระหนักว่าทักษะชีวิตบางอย่างจะสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างการเล่น เกมบางเกมยังสามารถสอนทักษะเฉพาะบางอย่างได้ด้วยเช่นกัน การเล่นเกมหลากหลายประเภทจะช่วยสร้างทักษะและความมั่นใจให้กับเด็กให้เติมโตเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นใจในตัวเองได้ด้วยเช่นกัน