Binance จะมาไทยแล้ว

จากข่าวลือกลายมาเป็นข่าวจริง

เรียกได้ว่าข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการตลาดซื้อขายเหรียญดิจิตอลทั่วโลกอีกครั้ง และสำหรับผู้ใช้งานชาวไทยคงต้องตามข่าวนี้ไปอีกสักระยะ เนื่องจากกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะตามมาในอนาคต 

Gulf หรือ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์

แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า วันที่ 13 เมษายน 2565 Gulf Innova บริษัทในเครือ ได้ลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้น กับ Binance Capital Management Co., Ltd. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้ง บริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

ทั้งให้ Gulf International Investment Limited อีกบริษัทในเครือ ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล BNB เพื่อเป็นการต่อยอดในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุน เพราะรายการนี้ไม่ถึงเกณฑ์ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์

CEO ไบแนนซ์ CZ กล่าวสวัสดี

ล่าสุดคุณ Changpeng Zhao หรือ CZ ได้โพสใน twitter ส่วนตัวของเค้าโดยขึ้นต้นเป็นคำทักทายภาษาไทย “สวัสดี” และตามด้วยการคอนเฟริมข่าวที่ว่า บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ Gulf ยักษ์ใหญ่ในบริษัทด้านพลังงานของไทย และจะเป็นผู้ลงทุนหลายใหญ่ ในการซื้อเหรียญ BNB ประกาศใช้ของบริษัท และลงทุนใน BinanceUS 

จะผ่าน กลต.ไทยหรือไม่

แต่ไม่รู้ว่าดีลนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้เคยกล่าวหาว่า Binance ดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างผิดกฎหมายในประเทศ

ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่าง Gulf Energy และ Binance ดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลพยายามสร้างการดำเนินงานใหม่ในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

เทรดเดอร์ชาวไทย คิดเห็นอย่างไร

บ้างบอกว่าเป็นโอกาศที่ดีที่ทำให้การเทรดเหรียญมีช่องทางมากขึ้น เนื่องจาก Binance เป็นตลาดที่ใหญ่ มีเหรียญและ volumn มาก ระบบการซื้อขายที่มีเสถียรภาพ มีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า รวมทั้งมีการจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเหรียญที่ถืออยู่ด้วย 

แต่บางคนก็เป็นห่วงว่า กลต.ไทยจะกำกับดูแลมากขึ้น รวมถึงข้อมูลผู้ใช้งานที่ทางไบแนนซ์อาจโดนเรียกเก็บ ส่งผลไปถึงการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง และกฏระเบียบไทยที่ยังค่อนข้างล้าหลังเป็นต้น

ที่มา : https://cointelegraph.com/news/gulf-energy-pursues-joint-venture-with-binance-invests-in-bnb

SCB 10X ลุย METAVERSE

SCB 10X จับมือ SANDBOX ลุยโลก Metaverse

ทำไม SCB10x ถึงไปลงทุนในโลก metaverse

คุณ Tai_panich ได้เขียนบทความลง medium เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนว่าในโลกอนาคตจะแตกต่างไปกับโลกปัจจุบันนี้ โลกดิจิตอลจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเรามาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเล่น สิ่งบันเทิง การใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่จำลองมาจากโลกเสมือนจริง เราจะแบ่งปันกันระหว่างเพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเล่น หรือคนแปลกหน้า ผู้คนจะเชื่อมต่อเข้ากับโลกดิจิตอลมากขึ้นไม่เพียงแค่เข้ามาทดลองใช้แต่จะเป็นหนึ่งในการสร้างโลกจำลองนี้ขึ้นมาผ่านการ สร้างสรรค์ การสร้างเนื้อเรื่อง เป็นเจ้าของสินทรัพย์เองในโลก metaverse

เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าวงการเกมส์และสื่อบันเทิงจะเปิดกว้าง กระจายศูนย์ ผ่านระบบการเซ็นเซอร์มากขึ้น คนเข้าถึงได้มากขึ้นและง่ายขึ้น โดยระบบ ecosystems ที่สนับสนุนถึงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ มีความปลอดภัยสูง และรวมถึงการร่วมมือกันที่ไม่สิ้นสุด

SCB 10X ต้องการอะไรบนโลกคู่ขนาน

SCB 10x ต้องการที่จะเป็นหนึ่งผู้เล่นที่มีส่วนร่วมในการเดินทางของ SANDBOX ครั้งนี้ โดยที่มีแพลนสร้างสำนักงานใหญ่รายแรกในเมต้าเวิร์สบน SANDBOX เพื่อบ่งบอกว่ามีความสนใจและตื่นเต้นในวงการปฏิวัติเทคโนโลยี ต้องการที่จะตั้งกิจกรรมการทำงานและออกแบบองค์กรให้มีความสนุกไปด้วย โดยที่อาจจะมีการประชุมออนไลน์ จำลองการดื่มกิน การจัดงานอีเว้นท์ การสัมมนาต่างๆ มุ่งหวังว่านักลงทุนและนักพัฒนาจะมีส่วนร่วมสำคัญในการนำความคิดสร้างสรรค์และความสามารถทางเทคนิคของเราไปไว้ในจักรวาลของ The Sandbox รวมถึงการร่วมมือกับผู้ก่อตั้งและทีมงาน นักลงทุน และหุ้นส่วนที่น่าทึ่งและสร้างแรงบันดาลใจ คาดว่าจะมีการนำระบบนิเวศ metaverse มาใช้ในสถาบันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยเริ่มจากของสะสมดิจิทัล(NFT) และผลิตภัณฑ์ metaverse เช่น LAND ที่ดินและตั้งเป้าที่จะเป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันใน The Sandbox และเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่จะเป็นผู้นำทางไปสู่ metaverse 

SANDBOX คืออะไร

แพลท์ฟอร์ม Sandbox เป็นระบบเกมส์บล็อคเชนและเมต้าเวิร์สที่อนุญาติให้ผู้เล่นสามารถสร้าง เป็นเจ้าของ การทำรายได้จากสินทรัพย์ในเกมส์ เป็นระบบที่ขับเคลื่อนด้วย

สังคมผู้ใช้งาน โดยที่ผู้สร้างจะใช้ Voxel platform ในการพัฒฯาที่ผู้ใช้งานเป็นเจ้าของที่ดิน

สามารถที่จะสร้างสรรค์ผลงานได้ไม่มีที่สิ้นสุดแล้วแต่จะจินตนการ ทุกสิ่งอย่างที่คุณเห็นในเกมส์ Sandbox นั้นถูกสร้างด้วยผู้เล่นซึ่งแตกต่างจากเกมส์ในปัจจุบันและสมัยก่อนที่จะสร้างด้วย game makers แซนด์บล็อคนั้นมีเป้าหมายที่จะให้ผู้สร้างเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิตอลเอง หรือเราอาจเรียกว่า NFT และผลตอบแทนก็จะเป็นการทำรายได้ของสินทรัพย์นี้ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย การเทรดเป็นต้น 

Warner Music โดดเข้าร่วมบล็อคเชนแล้ว

Warner Music Group x Splinterlands

บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าวงการนี้มาอีกเรื่อยๆ โดยล่าสุดเป็นการประกาศจาก Warner music group ที่ได้ร่วมมือในการลงทุนกับ Splinterlands ผู้พัฒนาการ์ดเกมแนวแฟนตาซี โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันและเปิดโอกาสสำหรับศิลปิน WMG ในการสร้างและพัฒนาเกมบล็อกเชน play-to-earn

WMG เข้าทำ NFT

โดยที่ผ่านมา Warner music group เพิ่งได้ร่วมมือกับ The sandbox ในการร่วมกันทำ nonfungible token หรือ NFT โดยที่ตกลงว่าจะให้ศิลปินในค่าย ออกแบบและเข้าถึงบรรดาแฟนๆ ของพวกเขาได้ง่ายขึ้น ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลได้ประกาศว่า 
“ด้วยการร่วมมือกับ Splinterlands เราจะสามารถปลดล็อกแหล่งรายได้ใหม่ ๆ สำหรับศิลปินของเราที่มีความสนใจในพื้นที่นี้ ในขณะที่ยกระดับบทบาทของกลุ่มแฟนคลับและชุมชนได้อีกด้วย และ ฉันคิดว่าไม่ควรที่จะประเมินช่องทางและขนาดที่ใหญ่ของตลาดเกมส์ Play to earn ต่ำเกินไป และด้วยความตกลงร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ splinterlands นี้จะช่วยให้ศิลปินของเรามุ่งเป้าในการพัฒนาเพลงควบคู่ไปกับโทเคนเกมส์ได้ โดยที่ขณะเราพัฒนานี้จะช่วยปลดล็อคแหล่งที่มาของรายได้ และช่วยให้ฐานแฟนเพลงนั้นมีส่วนร่วมกับเรามากยิ่งขึ้น”

Splinterlands คือบริษัทอะไร

Splinterlands ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และเป็นผู้สร้างเกมบล็อคเชนในชื่อเดียวกัน  โดยเป็นเกมต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนการ์ดได้อย่างอิสระ โดยธุรกรรมทั้งหมดจะบันทึกไว้ในบล็อกเชนของ Hive ปัจจุบัน เกมมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียน 1.8 ล้านราย รวมถึงผู้ใช้ 450,000 รายต่อวัน ตามข้อมูลจาก DappRadar ระบุว่า Splinterlands เป็นเกมบล็อคเชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดโดยพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา

เหรียญหนังแรกของไทย

เปิดตัว token หนังแรกของไทย

เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่อีกเรื่องของวงการคริปโตเคเรนซี ที่บริษัทในประเทศไทย ได้นำใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาใช้ ซึ่งครั้งนี้เป็นวงการภาพยนต์ โดยโทเคนดิจิทัลภาพยนต์ไทย #บุพเพสันนิวาส๒ ที่ผู้ถือเหรียญไว้จะได้รับผลตอบแทนที่อาจสูงถึง 5% ต่อปี*
โดยที่มีเงื่อนไขถ้าภาพยนต์ทำรายได้ทั่วประเทศเกิน 1,000 ล้านบาท แต่ถ้าจะไม่ถึงจะได้ผลตอบแทน 2.99% ต่อปี 

ราคาและผลประโยชน์

เบื้องต้นมี 3 ประเภทราคาดังนี้

  • I am Glad ราคา 5,559 บาท/โทเคน

  • I am Delighted ราคา 155,559 บาท/โทเคน

  • I am Happy ราคา 1,555,559 บาท/โทเคน

ผลประโยชน์เพิ่มเติม

  • ชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ก่อนใคร

  • ของกำนัล limited edition

  • โปสเตอร์ดิจิทัล

  • ส่วนลดตั๋วหนัง-ป๊อปคอร์น และอื่นๆ

ซึ่งจะเปิดให้ทำการจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น kubix

ข้อมูลเพิ่มเติม GDH >> https://salehere.co.th/r/xbh8Sg

*ข่าวสารนี้เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน