เกมส์ Louis ยอดโหลดมากกว่า 2ล้าน

ยอดดาวน์โหลดมากกว่า 2ล้านครั้งแล้ว สำหรับเกมส์ของ Louis Vuitton

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดของแบรนด์ที่คนทั่วโลกรู้จัก แบรนด์เครื่องประดับหรูหราสัญชาติฝรั่งเศษที่ชื่อว่า Louis Vuitton ได้ประกาศเปิดตัว NFT game ที่ชื่อว่า “Louis: The Game.” โดยวันที่เปิดตัวนี้มียอดดาวน์โหลดไปมากกว่า 2ล้านครั้งทั้งบน Android และ iOS 

“Louis: The Game” ติดตามตัวละครเอกของเรื่อง Vivienne ขณะที่เธอเอาชนะความท้าทาย รวบรวมเทียนไขและของสะสมอื่นๆ Beeple ศิลปิน NFT ได้ออกแบบ 30 NFT ที่ฝังอยู่ภายในเกม ซึ่งพร้อมสำหรับการชนะ เมื่อสิ้นเดือนเมษายน ระดับใหม่ๆ ออกมาแล้วและด้วยโอกาสใหม่ในการชนะ NFT ซึ่งจะแจกจ่ายผ่านการจับฉลากจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2022

เกม Louis Vuitton NFT คืออะไร?

Louis The Game เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2564 โดยผู้เล่นสามารถเสริมเติมแต่งตัวละครที่ชื่อว่า Viviene ให้เท่สวยสมใจอยาก จากนั้นก็เดินทางทำเควสภารกิจสะสมโปสการ์ดเพื่อนำมาแลกของรางวัล ซึ่งคราวนี้ Louis Vuitton ได้เพิ่มภารกิจใหม่ พร้อมทั้งรางวัลเป็น NFTs 

ผู้เล่นที่รวบรวม NFTs มีสิทธิ์ลุ้นรับ NFTs แบบสุ่ม 1 ใน 10 ตัว ซึ่งมีรูปลักษณ์ต่างกัน และสามารถนำไปใช้งานเป็นรูปโปรไฟล์ได้ สำหรับคอลเล็กชันนี้ Louis Vuitton ร่วมกับ Wenew Labs บริษัทสตาร์ทอัพของ Beeple ในการออกแบบ โดยจะปล่อยออกมาในบล็อกเชน Ethereum

NFT สวยๆ น่าสะสม

ตัวละครสวยๆแบบนี้ น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบเก็บสะสม โดยที่เมื่อคุณเข้าสู่ Louis the Game คุณจะได้เริ่มต้นการผจญภัยที่ชวนให้นึกถึง The Legend of Zelda: Breath of the Wild และคุณสามารถวิ่งไปรอบๆ กระโดด และรวบรวมสิ่งของต่างๆ ได้ตลอดทาง คุณยังสามารถปรับแต่งตัวละครของคุณด้วยภาพพิมพ์โมโนแกรมและสีสันต่างๆ ของ Louis Vuitton และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของ LV ตลอดโดยการรวบรวมโปสการ์ดและของที่ระลึกอื่นๆ ตัวละครของฉันสวมกระเป๋าเป้ขนาดเล็ก Palm Springs และหัวดอกไม้ของเธอมีกลีบดอกในสีน้ำตาล สีส้ม และสีดำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพพิมพ์ LV อันเป็นซิกเนเจอร์

ป้ายกำกับ

ดูไบตั้งสำนักงานใหญ่บน Sandbox

หน่วยกำกับดูแลคริปโตจะเปิดตัวสำนักงานใหญ่ metaverse บน The Sandbox

หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือนของดูไบ (VARA) ประกาศแผนเมื่อวันอังคารที่จะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ metaverse ในโลกเสมือนจริงของ Sandbox

“การมีอยู่ของเราใน metaverse… นับเป็นจุดเริ่มต้นของระยะใหม่ในการเดินขบวนของรัฐบาลดูไบเพื่ออนาคต ชีค ฮัมดัน บิน ราชิด อัล มักตูม มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ และประธานสภาบริหารดูไบ กล่าวในแถลงการณ์ต่อสำนักข่าว WAM

MetaHQ

จนถึงขณะนี้ หน่วยงานได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทของ “MetaHQ” โดยในแถลงการณ์ระบุว่าจะ “ทำหน้าที่เป็นช่องทางหลักในการดึงดูด [Virtual Asset Service Providers] ทั่วโลก เพื่อเริ่มต้นแอปพลิเคชัน และช่วยให้ผู้รับใบอนุญาตหน้าใหม่ได้เข้าสู่ metaverse เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์อย่างเปิดเผยกับผู้บริโภคและหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเปิดเผย เพื่อสร้างความตระหนักและทำให้เกิดการนำไปใช้อย่างปลอดภัย และขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันทั่วโลก”

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

ตำแหน่งของ HQ ภายใน The Sandbox ยังไม่ได้รับการเปิดเผย

VARA เปิดตัวเมื่อต้นเดือนมีนาคมเพื่อสร้างกรอบกฎหมายขั้นสูงและระบบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์เสมือนในดูไบและส่วนที่เหลือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

บริษัทที่ต้องการดำเนินการในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องไม่เพียงแค่มีธุรกิจในประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องได้รับใบอนุญาตการเข้ารหัสลับจาก VARA นอกจากนี้ยังควบคุมกิจกรรมของผู้รับฝากทรัพย์สินและผู้จัดการสินทรัพย์ในพื้นที่สกุลเงินดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการเปลี่ยนดูไบให้เป็นศูนย์กลางสำหรับสินทรัพย์เสมือนจริงและเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ มันจึงประสบความสำเร็จไปแล้ว โดยได้ล่อบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งออกจากสิงคโปร์ เช่น Bybit และ Three Arrows Capital

ป้ายกำกับ

Bitkub เปิดชุมชนเสมือน

บิทคัพเปิดชุมชนเสมือนแล้ว

โดยประกาศให้ผู้ใช้เข้าทดลองไปพบปะสังสรรกันบนแพทฟอร์มของ gather town เบื้องต้นมีผู้ใช้เข้าเล่นอย่างล้นหลาม 

ช่องทางประชาสัมพันธ์

สนุกไปด้วยได้ความรู้ไปด้วย ทาง bitkub เปิดตัว Msocial ที่ภายในจะมีทั้งช่องทางการช่วยเหลือ สำหรับผู้ใช้งาน อาทิเช่น การยืนยันตัวตน การเปิดใช้บัญชี การใช้งานกระเป๋าดิจิตอล เป็นต้น

การสัมมนาออนไลน์

ภายในช่องทางนี้ จะมีการสัมมนาโดยวิทยากรด้วย ซึ่งให้ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับ การลงทุน การใช้งานเหรียญดิจิตอล การแนะนำการลงทุน การใช้บิทคอย เป็นต้น โดยจะสลับสับเปลี่ยนเรื่องที่นำเสนอไปเรื่อยๆ 

สำหรับใครที่ต้องการทดลองใช้งานก็เข้าไปสร้างบัญชีง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องผูกกับอีเมล์ใดๆ ได้ที่ URL : 
https://app.gather.town/app/r3rPk9kWwyDYLuFF/Bitkub%20M%20Social

งาน NFT Metaverse ใหญ่สุดในเอเชีย

งาน NFT Metaverse และ GameFi 2022

งาน NFT, GameFi และ Metaverse 2022 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดขึ้นที่โคฟ มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

4 ยักษ์ใหญ่ร่วมจัด

บริษัทสื่อและทุนระดับโลกที่โดดเด่นสี่แห่ง ได้แก่ AC Capital, CoinVoice, Asia Token Fund และ Block Tides นำเสนองาน NFT, GameFi และ Metaverse ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NFT, GAMEFI และ METAVERSE 2022 จะเปิดตัวในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ที่คลับชายหาดในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ โคฟ มะนิลา โดยมีผู้สนใจในไวท์ลิสต์มากกว่า 2,000+ คนและผู้เข้าร่วม 1,000 คน

Guest พูดเยอะมาก คนดังของวงการ

ทุกคนยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นี้ในโลกของ Metaverse เนื่องจากงานนี้ได้เชิญโครงการที่มีชื่อเสียง บริษัท วิทยากร ผู้นำความคิดเห็นที่สำคัญ ศิลปิน Blockchain, NFT และผู้ที่ชื่นชอบ Crypto เช่น AFKDAO, Arcus Game, BabyShark BubbleFong Friends , CoinEx, Covenant Child, Crypto.com Capital, Gala Games, Kaloscope, Magnus Capital, Mecha Morphing, Metasumeru, PlaceWar, RoseOn World, Sparkpoint, SparkLearn Edtech, MetaDhana, MGG, OpenBlox และ Rooster Wars สำหรับ NFT ที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรกนี้ Metaverse และงาน Gamefi ที่ Cove Manila ประเทศฟิลิปปินส์ บีชคลับที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไนท์คลับซึ่งตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ Okada Manila

หารือ web 3.0

ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งใน 5 ประเทศชั้นนำในด้านการนำคริปโตมาใช้ 20% ของประชากรฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงต่อ crypto ประเทศกลายเป็นฮอตสปอตสำหรับเกม NFT และเกม NFT ได้ให้แหล่งรายได้ที่เชื่อถือได้สำหรับหลาย ๆ คน

วาระการประชุมนี้จะหารือเกี่ยวกับวิถีการเคลื่อนที่ของ Web 2.0 ไปสู่ Web 3.0 จะมีการอภิปรายที่จะจุดไฟโอกาสและการใช้งานภายใน Metaverse และ NFT Industry เช่นเดียวกับแนวโน้มในการเล่นเกมและ GameFi เพื่อเพิ่มสีสันให้กับงาน จะมีงานแฟชั่นโชว์ NFT บริษัทเกม NFT และบล็อกเชนในธีมคอสเพลย์ และคอนเซปต์ธีม NFT ที่จะถูกเน้นเพิ่มเติมโดยการแสดงจากนักเต้น Alab LED Poi เป็นต้น

ทำ NFT profile บน twitter ได้แล้ว

NFT Profile Twitter คืออะไร

ปกติเราจะต้องตั้งค่ารูป profile บนแอคเค้าท์โซเซียลมีเดียอยู่แล้ว เพื่อบ่งบอกว่าบัญชีนี้คือใคร โดยอาจจะเป็นรูปภาพตัวเอง รูปคนที่เราชอบ รูปสัตว์เลี้ยง รูปวิว หรือรูปที่แสดงอัตลักษณ์ของบัญชีนั้นๆ เช่นรูปโลโก้บริษัทเป็นต้น 

แต่ความพิเศษของตัว NFT Profile บน Twitter นั้นจะสามารถให้เราเชื่อมต่อกับกระเป๋าดิจิตอล cryto wallet ที่มีสินทรัพย์เป็น NFT อะไรก็ได้และสามารถแสดงรูป NFT บน Profile ของตนเองได้ เพื่อแสดงว่าเราเจ้าของบัญชีนี้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ชิ้นนี้นะ

จะตั้งค่า NFT อย่างไร

แน่นอนว่าอันดับแรกจะต้องมีตัว NFT และกระเป๋า cryto wallet เป็นของตนเองเสียก่อน ในที่นี้จะไม่ขอกล่าวถึงการแลกเปลี่ยน NFT การสร้างกระเป๋า wallet แต่จะกล่าวเฉพาะการทำ NFT Profile เท่านั้น ซึ่งวิธีทำนั้นจะมีดังนี้

  • สมัครเปิดใช้บัญชีประเภท Twitter Blue ซึ่งตอนนี้ยังเปิดให้บริการแค่ US, Canada, Australia, และ New Zealand. ใช้ได้เฉพาะ app บน iOS และ Android 
  • ลงชื่อเข้าใช้ Twitter ผ่านแอพบนมือถือเท่านั้น  iOS & Android.
  • ไปที่หน้า profile.
  • กดแก้ไขโปรไฟล์ และเลือกรูป NFT
  •  เลือกกระเป๋าที่ซัพพอร์ท ในที่นี่ใช้ metamask 
  •  ทวิตเตอร์จะสร้างตัวคำร้องยืนยันในการเชื่อมกระเป๋า ให้กดรับที่กระเป๋าเพื่อเซ็นต์อนุมัติ
  • หลังจากที่กระเป๋าเชื่อมกับ Twitter แล้วให้กด done และ save เพื่อยืนยันความต้องการ
  • Your Twitter profile picture will now display in a special hexagon shape that identifies you as the owner of that NFT. จากนั้นรูป Twitter NFT Profile จะแสดงในกรอปรูปหกเหลี่ยมเพื่อแสดงว่าเราเป็นเจ้าของ NFT นี้
  • and much more! ถ้าจะดูรายละเอียดของ NFT Profile ก็เพียงกดที่รูปและกด view NFT Details จากนั้นจะแสดงชื่อผู้สร้าง,เจ้าของ,ผลงานสะสม หรือ คุณสมบัติต่างๆของ NFT 

ต้องอัพเดทข่าวสารเสมอ

โดยการใช้งานนั้นเจ้าของ NFT จะต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตกับบัญชี Twitter เพื่อให้แสดงรูปโปรไฟล์ และ Twitter จะแสดงไอคอนกำกับว่า NFT นี้ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของจริง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานทุกคนไม่จำกัดว่าต้องเป็น Twitter Blue จะเห็นไอคอนนี้


และเนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้ยังใหม่อยู่และยังต้องการเวลาพัฒนาอีกมาก บางครั้ง บางอุปกรณ์ หรือบางประเทศยังไม่เปิดใช้งาน เช่นประเทศไทยเป็นต้น ก็ต้องคอยเช็คข่าวเกี่ยวกับ NFT Profile นี้ตลอด 
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถกดเข้าไปที่ https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-blue-labs

meta จะเปิดตัวแว่นปี 2024

AR สำหรับ Metaverse

มีรายงานว่า Meta จะเปิดตัวชุดหูฟัง Augmented Reality (AR) เครื่องแรกในปี 2024 อุปกรณ์นี้ยังมีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ในการพัฒนา metaverse

รายงานของ Verge ที่อ้างถึงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า Meta ได้พัฒนาชุดหูฟัง AR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Project Nazare ตามรายงานมา Meta ได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาอุปกรณ์แห่งอนาคตนี้

ทุ่มงบพัฒนาไม่อั้น

Meta ได้ทุ่มเทเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาโครงการที่มีชื่อรหัสว่า ‘Nazare’ Verge รายงาน มีรายงานว่าแว่นตา AR จะทำงานเป็นอิสระจากอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในการทำงาน นี่เป็นแรงผลักดันจาก Meta ให้ออกจากภายใต้นิ้วโป้งของ Apple และ Google ซึ่งกำหนดนโยบายว่าแอปควรทำงานอย่างไรบนอุปกรณ์ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องใช้ “อุปกรณ์รูปทรงโทรศัพท์” สำหรับการคำนวณ และต้องใช้สายรัดข้อมือแบบพัลส์ไฟฟ้าที่ได้รับจาก CTRL-Labs สำหรับการควบคุม

ลุยเปิดตัว AR แรก

ปัจจุบัน พนักงาน Meta ยังคงทำงานหนักเพื่อเตรียมชุดหูฟัง AR รุ่นแรกสำหรับการเปิดตัวในปี 2569 พวกเขายังทำงานเกี่ยวกับชุดหูฟังรุ่นที่สองที่เบาและทันสมัยกว่าสำหรับการเปิดตัวในปี 2569 ตามด้วยอุปกรณ์รุ่นที่สามในปี 2571

แว่นตา AR รุ่นแรกนี้คาดว่าจะใช้ Android และสามารถนำเสนอความเป็นจริงเสมือนเต็มรูปแบบด้วยภาพ 3 มิติ, การติดตามดวงตา, กล้องที่หันออกด้านนอก, เสียงสเตอริโอ, มุมมองที่กว้างและรูปลักษณ์ที่เป็นที่ยอมรับของสังคม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มคุณสมบัติแกนกลางซึ่งจะช่วยให้สามารถสื่อสารกับโฮโลแกรมของคนอื่นได้เช่น Meta ที่แสดงให้เห็นในวิดีโอที่งานรีแบรนด์ครั้งใหญ่เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว Mark Zuckerberg เชื่อว่าฟีเจอร์นี้จะมอบประสบการณ์ที่น่าดึงดูดใจมากกว่าการโทรผ่านวิดีโอธรรมดาๆ

ใช้ android ในตัวเริ่มต้น

ในขณะที่ Meta CEO อาจมีความหวังอย่างมากสำหรับแว่นตาอัจฉริยะ บริษัท ยังไม่ได้ผลิตแว่นตา AR ที่ใช้งานได้และสวมใส่ได้ การสาธิตระหว่างการนำเสนอ Meta ของ Zuckerberg ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้


แว่นตา AR ของ Meta จะสู้กับ Snap’s Spectacles และรุ่นอื่นๆ ในอนาคตจาก Microsoft และ Google Microsoft และ Qualcomm ประกาศความร่วมมือที่ CES 2022 เพื่อผลิตชิปใหม่สำหรับแว่นตา AR ซึ่งจะเป็นไปตามชุดหูฟัง HoloLens 2 โดย Microsoft แว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรกของ Meta คือ Ray-Ban Stories ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วโดยมีไมโครโฟน ลำโพง และกล้องในตัว

AWS Quest ใช้ metaverse เพื่อสอน cloud

AWS Cloud Quest

ถ้าเรียนไปด้วย สนุกไปด้วยผ่านเกมส์บน metaverse ก็คงดีไม่น้อย Amazon Cloud Quest ได้สร้างเกมส์ผ่านการเรียนรู้โดยที่ให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นนักพัฒนาเมือง เรียนรู้การสร้างระบบ cloud ผ่านกิจกรรมที่ใช้บริการบน AWS

เล่นเกมส์ได้ความรู้

คุณจะแก้ปัญหาทั่วทั้งเมือง Cloud Quest เสมือนจริงโดยทำแบบฝึกหัดการเรียนรู้ เช่น ห้องแล็บ แบบทดสอบ และปริศนา

AWS Cloud Quest คืออะไร

ถ้าจะเปรียบประเภทของเกมส์ก็คือเกมส์ประเภท Role-play ที่คุณจะถูกจำลองให้สร้าง

เมืองผ่านมิชชั่นการสร้างระบบเก็บข้อมูลแบบ cloud สอนสร้าง lab หรือชาเลนจ์ที่ทำเอง

คุณจะต้องแก้ปัญหาให้ชาวเมืองผ่านระบบ cloud
เบื้องต้นจะมี 12 ภารกิจเกี่ยวกับระบบ cloud computing
คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในฝีเท้าของคุณเอง และการฝึกอบรมด้านเทคนิคของคุณจะได้รับการสนับสนุนโดยใช้ห้องปฏิบัติการต่างๆ ความท้าทาย DIY รางวัล ปริศนา และการจำลอง

สำหรับผู้ที่กำลังต้องการใบรับรองที่เป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรม เกม AWS Cloud Quest ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ AWS Certified Cloud Practitioner ได้ด้วย ซึ่งเกม AWS Cloud Quest เปิดให้เล่นได้แล้วทั่วโลกบน PC ผ่าน AWS Skill Builder

แจก AIRDROP เหรียญยูเครน

สงครามกับคริปโตเคเรนซี

ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่าง Used case ได้อย่างดีสำหรับโลกของคริปโตเคอเรนซีว่ามีประโยชน์อย่างไร แน่นอนการทำสงครามที่เกิดขึ้นระหว่าง รัสเซียและยูเครนนั้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากของยูเครนมีปัญหาในการถอนเงินสดออกจากธนาคาร ต้องไปยืนต่อแถวหลายชั่วโมง และบางครั้งอาจจะไม่ได้เงินของตนเองด้วย และทางฝั่งของรัสเซียก็โดนผลกระทบด้วยเช่นกัน จากการที่โดนแบนจากนานาประเทศ อาทิเช่น Swift ซึ่งเป็นระบบการโอนเงินข้ามประเทศของธนาคาร ที่ปิดกั้นไม่ให้ทางรัสเซียใช้งานได้ เรียกได้ว่าประชาชนของทั้งสองฝ่ายโดนผลกระทบไปเต็มๆ 

คริปโตมาแก้ปัญหา

ทางยูเครนและสังคมผู้ใช้เหรียญดิจิตอลได้ทำการระดมทุนผ่านการโอนเหรียญบิทคอย อีทีเรียม และ สเตเบิ้ลคอยอย่าง USDT เข้าไปที่ประเทศยูเครนเพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับที่ทางรัสเซียบุกเข้าโจมตี และนี่เป็นวิธีการที่สะดวก ง่าย และเห็นผลได้ชัดเจนมาก 
โดยที่ทางยูเครนได้ทำการโพส twitter เชิญชวนให้คนร่วมบริจารผ่านทางเลขดังนี้

BTC : 357a3So9CbsNfBBgFYACGvxxS6tMaDoa1P 

ETH และ USDT : ERC-20
0x165CD37b4C644C2921454429E7F9358d18A45e14

แจก Airdrop

และล่าสุดได้ทำการทวีตเพิ่มเติมในการแจก Airdrop ซึ่งยังไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะเป็นอะไร แต่จะทำการ snapshot วันที่ 3 มีนาคม 6pm (UTC/GMT +2 hours) 

10 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก

10 เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต

การแข่งขันทางเทคโนโลยีมีความดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระบวนการเติบโตนั้นจะเป็นแบบก้าวกระโดด จากบทความวิจัยของบริษัท Mckinsey ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าอนาคตข้างหน้าจะก้าวผ่าน 100 ปี

จากข้อมูลของ McKinsey สิ่งเหล่านี้คือ 10 เทคโนโลยีชั้นนำที่ดึงดูดความสนใจและเงินทุนของนักลงทุนและนักเทคโนโลยี พวกเขายังเป็นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของสถานที่ทำงานสมัยใหม่ การทำความเข้าใจผลกระทบของแนวโน้มเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีผลกับองค์กรและต่อบุคคลที่งานจะได้รับผลกระทบ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงข้อเสียที่เลวร้ายที่สุดของการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นตามมา

1.ระบบอัตโนมัติและภาพเสมือน

ประมาณครึ่งหนึ่งของกิจกรรมการทำงานที่มีอยู่ทั้งหมดอาจเป็นแบบอัตโนมัติในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า เนื่องจากกระบวนการอัตโนมัติระดับถัดไปและการจำลองเสมือนกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น

McKinsey คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 อุปกรณ์มากกว่า 5 หมื่นล้านเครื่องจะเชื่อมต่อกับ Industrial Internet of Things (IIoT) หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ การพิมพ์ 3 มิติ และอื่นๆ ซึ่งจะใช้ข้อมูลมากถึง 79.4 เซตตะไบต์ (zettabytes) ต่อปี

2.การเชื่อมต่อของโลกอนาคต

5 G และ Iot จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเชื่อมต่อ เพราะการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น และสามารถนำมาปรับใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้เช่น สุขภาพ โรงงานการผลิตและค้าปลีก โดยการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว แม่นยำนี้จะไปเพิ่ม GDP ทั่วโลกถึง 1.2ล้านล้านดอลล่าห์จนถึง 2ล้านล้านในช่วงปี 2030  ซึ่งอุตสาหกรรม 5G และ iot จะเป็นตัวที่หมายปองในเทรนเทคโนโลยีต่อไป

และการใช้งานเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วนั้นจะส่งผลเป็นแนวกว้างต่อวงการธุรกิจ เริ่มต้นตั้งแต่ การแปลผลข้อมูลเป็นดิจิตอล ส่งผลให้การความคุมไร้สายในเครื่องจักรและหุ่นยนต์ ทำงานได้ง่ายขึ้น อาจรวมไปถึงการตรวจสอบผู้ป่วยในระยะไกล

3. โครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์

ภายในปี 2565 บริษัทร้อยละ 70 จะใช้แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์หรือมัลติคลาวด์เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ หมายความว่าข้อมูลและการประมวลผลสามารถจัดการได้ในระบบคลาวด์ ซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเร็วขึ้น

McKinsey กล่าวว่า “เทรนของเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ เพิ่มความเร็วและความคล่องตัว ลดความซับซ้อน ประหยัดค่าใช้จ่าย และเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์

4. คอมพิวเตอร์รุ่นต่อไป

McKinsey เชื่อว่าการใช้คอมพิวเตอร์รุ่นต่อไป จะช่วยแก้โจทย์ที่คอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่จะมีระบบประมวลผลที่เร็วขึ้น

ซึ่งรวมถึงการพัฒนาในวงกว้างมากมาย ตั้งแต่ควอนตัม AI ไปจนถึงยานยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ และด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นปัญหาในทันทีสำหรับทุกองค์กร McKinsey กล่าวว่า “การเตรียมพร้อมสำหรับคอมพิวเตอร์ยุคหน้าต้องระบุว่าคุณอยู่ในอุตสาหกรรมคลื่นลูกแรกหรือไม่ (เช่น การเงิน การเดินทาง การขนส่ง พลังงานและวัสดุทั่วโลก และอุตสาหกรรมขั้นสูง)” McKinsey กล่าว หรือ “ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะขึ้นอยู่กับการค้าหรือไม่ ความลับและข้อมูลอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการปกป้องในระหว่างการเปลี่ยนจากการเข้ารหัสปัจจุบันเป็นควอนตัม”

5.ระบบปัญญาประดิษฐ์

AI เป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา AI เท่านั้น เมื่อเทคโนโลยีมีความซับซ้อนมากขึ้น ก็จะนำไปใช้เพื่อพัฒนาเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีต่อไป เช่น เครื่องฝึกให้จดจำรูปแบบ แล้วดำเนินการตามสิ่งที่ตรวจพบ

ภายในปี 2024 คำพูดที่สร้างโดย AI จะอยู่เบื้องหลังปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับคอมพิวเตอร์มากกว่า 50% บริษัทต่างๆ ยังคงค้นหาวิธีใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามผลการตอบแบบสอบถาม 1ใน4 บริษัทที่ใช้ระบบ AI ยังบอกว่าไม่ส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งตรงนี้เป็นช่องว่างในการพัฒนาและนำ AI มาใช้อย่างไรต่อไป

6.อนาคตของการโปรแกรมมิ่ง

เตรียมพร้อมสำหรับซอฟต์แวร์ 2.0 ซึ่งโครงข่ายประสาทเทียมและแมชชีนเลิร์นนิงจะเขียนโค้ดและสร้างซอฟต์แวร์ใหม่ McKinsey กล่าวว่า “เทรนด์เทคโนโลยีนี้ทำให้สามารถปรับขนาดและการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของแอปพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีข้อมูลจำนวนมาก”

ส่วนหนึ่ง มันสามารถเห็นการสร้างแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ทรงพลังและมีความสามารถมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ยังทำให้ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่และกระบวนการเข้ารหัสเป็นมาตรฐานและเป็นไปโดยอัตโนมัติ

7. สถาปัตยกรรมที่เชื่อถือได้

ในปี 2019 บันทึกข้อมูลมากกว่า 8.5 พันล้านรายการถูกบุกรุก แม้จะมีความก้าวหน้าในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่อาชญากรยังคงพยายามเพิ่มเป็นสองเท่า เนื่องจากเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังเติบโต สถาปัตยกรรมที่ไว้วางใจได้จะช่วยในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต

วิธีหนึ่งในการสร้างสถาปัตยกรรมความน่าเชื่อถือคือการใช้บัญชีแยกประเภทแบบกระจาย เช่น บล็อกเชน “นอกจากการลดความเสี่ยงของการละเมิดแล้ว สถาปัตยกรรมความน่าเชื่อถือยังช่วยลดต้นทุนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ และช่วยให้ทำธุรกรรมที่คุ้มทุนมากขึ้น เช่น ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย” McKinsey กล่าว .

8. การปฏิวัติทางชีวภาพ

มี “การบรรจบกันของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพ” ที่ “สัญญาว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจและชีวิตของเรา และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ด้านสุขภาพและการเกษตร ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค พลังงาน และวัสดุ”

ขับเคลื่อนโดย AI ระบบอัตโนมัติ และการจัดลำดับ DNA การปฏิวัติทางชีววิทยาให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการพัฒนายีนบำบัด ยาเฉพาะบุคคล และคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการออกกำลังกายตามพันธุกรรม เทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างตลาดใหม่ แต่ยังทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับจริยธรรมอีกด้วย “องค์กรจำเป็นต้องประเมิน bQ หรือความฉลาดทางชีววิทยา – ขอบเขตที่พวกเขาเข้าใจวิทยาศาสตร์ชีวภาพและความหมายของมัน จากนั้นพวกเขาควรแยกแยะทรัพยากรที่จำเป็นในการจัดสรรให้กับเทคโนโลยีและความสามารถทางชีววิทยา และไม่ว่าจะรวมสิ่งเหล่านี้เข้ากับ R&D ที่มีอยู่หรือเป็นพันธมิตรกับการเริ่มต้นธุรกิจตามหลักวิทยาศาสตร์” McKinsey กล่าว

9. วัสดุรุ่นต่อไป

การพัฒนาด้านวัสดุศาสตร์มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงภาคส่วนตลาดที่หลากหลาย รวมถึงยา พลังงาน การขนส่ง สุขภาพ เซมิคอนดักเตอร์ และการผลิต วัสดุดังกล่าวรวมถึงกราฟีน ซึ่งเป็นอะตอมของคาร์บอนเพียงชั้นเดียวที่จัดเรียงเป็นโครงตาข่ายรังผึ้ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเหล็กประมาณ 200 เท่า แม้ว่าจะมีความบางอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นตัวนำที่มีประสิทธิภาพมากและสัญญาว่าจะปฏิวัติประสิทธิภาพของเซมิคอนดักเตอร์ อีกประการหนึ่งคือโมลิบดีนัมไดซัลไฟด์ – อนุภาคนาโนซึ่งถูกใช้แล้วในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความยืดหยุ่น

McKinsey กล่าวว่า “ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐศาสตร์ของผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย วัสดุแห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมากในด้านการใช้งานที่ยังไม่ได้แตะต้องจำนวนมากอาจเปลี่ยนเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรมและกำหนดค่าบริษัทใหม่ภายในได้

10. อนาคตของเทรนด์เทคโนโลยีสะอาด

พลังงานหมุนเวียน การขนส่งที่สะอาดกว่า/เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาคารประหยัดพลังงาน และการใช้น้ำอย่างยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของแนวโน้มเทคโนโลยีสะอาด เนื่องจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสะอาดตกต่ำ การใช้งานจึงแพร่หลายมากขึ้นและรู้สึกได้ถึงการหยุดชะงักของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“บริษัทต่างๆ จะต้องก้าวให้ทันกับโอกาสในการสร้างธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่โดยการออกแบบโปรแกรมปรับปรุงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี การจัดซื้อ การผลิต และการลดต้นทุน” McKinsey เชื่อ “การพัฒนาเทคโนโลยีสะอาดยังให้สัญญาว่าจะมีแหล่งพลังงานสีเขียวจำนวนมากเพื่อรักษาการเติบโตของเทคโนโลยีแบบทวีคูณ เช่น ในการประมวลผลกำลังสูง”