ผู้บริหารของ Google ได้ออก “code red หรือ รหัสแดง” หลังจากมีกระแสฮิตของ ChatGPT ที่เป็น chatbot สนทนาประดิษฐ์อัจฉริยะที่สร้างขึ้นโดย OpenAI จากความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเครื่องมือค้นหาของ Google

Sundar Pichai ซีอีโอของ Google และ Alphabet บริษัทแม่ได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้งเกี่ยวกับกลยุทธ์ AI ของ Google และแนะนำกลุ่มต่าง ๆ บริษัทในเครือ ให้มุ่งเน้นที่ความพยายามในการจัดการกับภัยคุกคามที่ ChatGPT อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อธุรกิจเสิร์ชเอ็นจิ้น (Google)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมงานในฝ่ายวิจัย ฝ่ายความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของ Google รวมถึงแผนกอื่น ๆ ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนระบบใหม่เพื่อช่วยในการพัฒนาและเปิดตัวต้นแบบและผลิตภัณฑ์ AI ซึ่งตามรายงานของ The Times พนักงานบางคนได้รับมอบหมายให้สร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่สร้างงานศิลปะและกราฟิก คล้ายกับ DALL-E ของ OpenAI ซึ่งมีผู้ใช้งานนับล้านคนในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

ความเคลื่อนไหวของ Google ในการสร้างผลิตภัณฑ์ AI เกิดขึ้นเมื่อพนักงานและผู้เชี่ยวชาญของ Google ถกเถียงกันว่า ChatGPT ซึ่งดำเนินการโดย Sam Altman อดีตประธาน Y-Combinator มีศักยภาพที่จะมาแทนที่เครื่องมือค้นหาอย่าง Google และอาจทำให้รายได้โฆษณาของ Google ลดลงอย่างมากรูปแบบธุรกิจ

Sridhar Ramaswamy ผู้ดูแลทีมโฆษณาของ Google ระหว่างปี 2013-2018 กล่าวว่า ChatGPT สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้คลิกลิงก์ Google ที่มีโฆษณา ซึ่งสร้างรายได้ 208,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 81% ของรายได้โดยรวมของ Alphabet ในปี 2021

ปัจจุบัน ChatGPT มีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคนภายใน 5 วันหลังจากเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 เนื่องจากสามารถสร้างคำตอบเดียวสำหรับคำถามในรูปแบบการสนทนาที่เหมือนมนุษย์ ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์หลายล้านแหล่ง อีกทั้งผู้ใช้บางรายได้ขอให้แชทบอทช่าวยเขียนเรียงความในมหาวิทยาลัย ให้คำแนะนำในการเขียนโค้ดและ แม้แต่ทำหน้าที่เป็นนักบำบัด

แต่ถึงกระนั้น หลาย ๆ ครั้งแชทบอทก็มักเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด ChatGPT ไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงในสิ่งที่พูดได้ และไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงที่ได้รับการยืนยันกับข้อมูลที่ผิด และบอทยังสามารถสร้างการตอบสนองแบบเหยียดเชื้อชาติและเหยียดเพศ ได้อีกด้วย