Author: sujitrat Tipmanee

เช่นเดียวกับหลายๆ โปรเจ็กต์ NFT ผู้ใช้ที่สะสม Collectible Avatars ได้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ทาง Reddit กล่าวว่าผู้ที่ครอบครอง Collectible Avatars เหล่านี้จะสามารถใช้เครื่องแต่งกายที่มากับ Avatar เหล่านี้ร่วมกับเครื่องแต่งกายอื่นๆ ของ Reddit ได้ นอกจากนี้รูปโปรไฟล์ของผู้ใช้จะมีเอฟเฟกต์เรืองแสงในส่วนของช่อง comment

ทาง Reddit มีเหมือนหลาย ๆ โปรเจค NFT ที่มีการอนุญาตให้ลูกค้าระดับ VIP ได้เลือกซื้อ NFT ก่อนที่จะขายหมด ทาง Reddit ได้บอกว่า Collectible Avatars เหล่านี้จะขายให้สมาชิก Subreddit r/CollectibleAvatars ก่อนซึ่งเป็น Subreddit ที่ต้องถูกเชิญเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมได้

Collectible Avatars จะถูกจัดเก็บลงใน “กระเป๋าเงิน Blockchain” ของทาง Reddit ที่เรียกว่า Vault และจากที่ Reddit ได้ประกาศนั้น ศิลปินจะได้รับเงินจากผลงานทุกชิ้นที่ขายได้บน Reddit รวมถึงค่าลิขสิทธิ์จากการขายในตลาดภายนอก ซึ่งโดยรวมแล้วคือมีทุกอย่างที่เป็นที่ยอมรับกันในวงการ NFT แบบดั้งเดิม

แต่ก็ยังมีสิ่งที่แตกต่างอยู่ คือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ Cryptocurrency เพื่อซื้อ Collectible Avatar อ้างอิงจาก TechCrunch ตัว Avatar จะมีราคาอยู่ที่ $9.99, $24.99, $49.99 และ $99.99 รวมถึงผู้ที่ถือครง Avatar เหล่านี้จะได้รับลิขสิทธิ์ที่สามารถใช้ Avatar ได้ภายนอกเว็บไซต์ Reddit โดยลิขสิทธิ์ตัวนี้ไม่ได้เป็นลิขสิทธิ์กว้าง ๆ แบบโปรเจค NFT อื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือครองสามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของงานศิลป์นี้กับสินค้าอื่น ๆ หรือในรายการโทรทัศน์หรือในที่อื่น ๆ ได้อีกด้วย

เมตาได้แนะนำให้ผู้ใช้งานถอนคริปโทฯ ทั้งหมดที่ฝากไว้บนแพลตฟอร์มโดยเร็วที่สุด และจากนั้นเมตาจะดำเนินการโอนเงินที่เหลือของลูกค้าไปยังบัญชีธนาคารและบัตรเดบิตที่ผูกกับ Novi ภายหลังจากสิ้นสุดการให้บริการวันสุดท้าย

ทั้งนี้ เมตาได้เริ่มนำร่องการให้บริการ Novi เมื่อเดือนตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่มีการรองรับเหรียญ Diem ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เมตาได้พัฒนาขึ้นเอง หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Libra  ซึ่งภายในเดือนต่อมา เดวิด มาร์คัส (David Marcus) หัวหน้าฝ่ายคริปโทของเมตาก็ได้ลาออก และเมื่อต้นปี 2022 นี้เอง บริษัท เดียม แอสโซซิเอชัน (Diem Association) ซึ่งเป็นบริษัทที่เมตาตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล Diem ก็ได้ประกาศขายสินทรัพย์และถอนตัวจากการดำเนินงานไป

อย่างไรก็ตาม โฆษกของเมตากล่าวกับบลูมเบิร์กว่า “การที่เมตาไม่ดำเนินงานด้าน Novi และ Diem ต่อนั้น มิได้หมายความว่าบริษัทจะหยุดพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัลตัวใหม่ โดยผู้บริโภคจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ มากขึ้นบน Web 3.0 มากขึ้น เพราะเรามองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีที่สามารถนำผู้คนและธุรกิจมารวมกัน”