เจ้าของกิจการยิมตั้งเป้าหมายนำ NFT มาใช้กับระบบสมาชิกฟิตเนส

เจ้าของกิจการยิมตั้งเป้านำ NFT มาใช้กับการเป็นสมาชิก โดยมีสิทธิพิเศษให้มากมาย หวังแก้ปัญหาที่อุตสาหกรรมฟิตเนสที่กำลังเผชิญอยู่
 
โมเดลที่ใช้ NFT สำหรับการเป็นสมาชิกฟิตเนสนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่และน่าสนใจ นอกจากสิทธิในการเป็นสมาชิกของยิมที่เจ้าของ NFT จะได้รับแล้ว ยังได้รับส่วนลดสำหรับบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายอีกด้วย เช่น ส่วนลดอาหารเสริม , เทรนเนอร์ส่วนตัว และอุปกรณ์ต่างๆ
 
Deni Zulic ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Global Fit Club ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฟิตเนสนั้นกล่าวว่าจะเตรียมเสนอการเป็นสมาชิกผ่าน NFT กันในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการฟิตเนสแบบเต็มรูปแบบ โดยที่ทาง Global Fit Club ได้ร่วมมือกับศูนย์ออกกำลังกายที่มีชื่อเสียงอย่าง Anytime Fitness และ F45 Training
 
แนวคิดนี้เริ่มขึ้นจากการสำรวจและมองเห็นปัญหาอย่างหนึ่งของการเป็นสมาชิกฟิตเนสที่สมาชิกจะต้องจ่ายค่าสมาชิกในทุกๆ เดือน แถมยังมีแพ็กเกจที่ยิ่งสมัครสมาชิกนานๆ ราคารายเดือนที่ต้องจ่ายก็จะถูกลง
 
แต่ปัญหาคือบางคนเมื่อสมัครไปแล้ว แทบไม่มีเวลาได้เข้าไปฟิตเนสเลย ทำให้ค่าสมาชิกที่ต้องจ่ายไปนั้น ก็เสียไปแบบฟรีๆ แถมยังไม่สามารถเอาไปขายต่อให้คนอื่นได้ด้วยนะ
 
โดย Deni Zulic เชื่อว่าแนวคิดการนำ NFT มาใช้กับบริการของฟิตเนสจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยที่สมาชิกเพียงแค่ซื้อ NFT ที่ราคาพื้นครั้งเดียวไปเลย แล้วก็สามารถใช้สิทธิในบริการของฟิตเนสได้ตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกก็เพียงแค่ขายต่อ NFT ไปให้กับคนอื่นที่ต้องการก็เท่านั้นเอง
 
การทำแบบนี้จะทำให้ NFT เปรียบเสมือนสินทรัพย์อย่างนึงเลยด้วย เพราะว่าหากมีคนต้องการเยอะ ราคาของ NFT ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามความต้องการ ทำให้ผู้ถือนอกจากจะได้เข้าถึงบริการของฟิตเนสแล้ว ยังมีโอกาศได้กำไรจากการถือ NFT อีกด้วย
 
อีกทั้งแพลตฟอร์ม Global Fit Club ยังมีแผนจะจูงใจให้ผู้ใช้ออกกำลังกายกันมากขึ้น ด้วยการสร้างรายได้ให้กับผู้ถือ NFT เมื่อออกกำลังนั้นเอง อารมณ์น่าจะคล้ายๆ Exercise to Earn นั้นเอง

ที่มา : NFT Thailand, cointelegraph

credit photo by : fitnesstime

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

LINE เปิดตัวตลาด NFT ในแพลตฟอร์ม DOSI

หน่วยโทเค็นที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ (NFT) ของแอพส่งข้อความภาษาญี่ปุ่น  LineNext กล่าวเมื่อวันอังคารว่าได้เปิดตัวตลาดผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค (C2C) บนแพลตฟอร์ม  NFT DOSI บริการซื้อขาย C2C ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขาย NFT ได้ทั่วโลก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น 

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ Line กล่าวว่ามีแผนจะเปิดตัวบริการ NFT ในปี 2565 เพื่อจัดหาตลาดสำหรับบริษัทและบุคคลเพื่อซื้อขาย NFT 

บริษัทกล่าวว่าใครๆ ก็ซื้อขาย NFT ได้อย่างง่ายดายบนแพลตฟอร์ม DOSI ซึ่งมีขั้นตอนการทำธุรกรรมที่ง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนDOSI Wallet และเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชีโซเชียลมีเดีย รวมถึง LINE, Facebook และ Google โฆษกของ LineNext กล่าว เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน DOSI กับMetaMaskซึ่งเป็นกระเป๋าเงินเข้ารหัส Ethereum พวกเขาสามารถซื้อหรือขาย NFT ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ผู้ใช้สามารถชำระเงินด้วย Ethereum, บัตรเครดิต, Naver Pay และอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยน NFT LineNext วางแผนที่จะเพิ่มสินทรัพย์ crypto และบริการชำระเงินมือถือในแต่ละประเทศ 

บริษัทอ้างว่า DOSI ได้รวบรวมคะแนนของผู้ใช้จาก 180 ประเทศ ยกเว้นญี่ปุ่น และออกกระเป๋าเงิน DOSI มากกว่า 100,000 รายการพร้อมสมาชิก NFT 170,000 รายการตั้งแต่เปิดตัวบริการเบต้าในเดือนกันยายน บริษัท วางแผนที่จะเปิดตัวเวอร์ชันอย่างเป็นทางการในปีนี้โฆษกกล่าว บริการสมาชิกพลเมืองของ DOSI ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคะแนนการเป็นสมาชิกที่เรียกว่า DON โดยการเข้าร่วมในกิจกรรมชุมชน NFT หรือซื้อ NFT ของพวกเขา 

LineNext ได้เปิดตัวโครงการ NFT ที่ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ รวมถึงเจ้าพ่อสื่อเกาหลี CJ ENM และบริษัทแม่ Naver บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการ NFT เพิ่มเติมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ NFT คุ้นเคยกับผู้ใช้มากขึ้นในอนาคต 

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ NFT รูปแบบใหม่สำหรับผู้ใช้” Youngsu Ko ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LineNext กล่าวในแถลงการณ์ “ไม่ใช่แค่การลงทุนหรือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ สำหรับเรา DOSI คือการสร้างกองทุน NFTs และใช้งานง่าย สร้างประโยชน์สำหรับผู้ใช้ของเราและสร้างชุมชน” 

LineNext ซึ่งมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้บอกกับ TechCrunch เมื่อปีที่แล้วว่าค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเป็นแหล่งรายได้หลัก สำนักงานในสหรัฐฯ ของ LineNext จัดการ DOSI แพลตฟอร์ม NFT ทั่วโลก ในขณะที่สำนักงานในเกาหลีดำเนินการผลิตภัณฑ์บล็อคเชนของ Line

ที่มา : techcrunch

credit photo by : LineNext แพลตฟอร์ม NFT ของ LineNext DOSI

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

Instagram เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้ซื้อขาย NFT กันในแอพ

บริษัท Meta ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า Instagram กำลังพัฒนาฟีเจอร์สำหรับการสร้าง NFT บนแอป พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน NFT กันภายในแอปได้เลย

“ครีเอเตอร์กลุ่มเล็กๆ จะสามารถสร้างของสะสมดิจิทัล (NFT) และ ซื้อขายกันได้บน Instagram ในไม่ช้า” Stephane Kasriel หัวหน้าฝ่ายการค้า และ Fintech ของ Meta กล่าวในแถลงการณ์

โดยเมื่อเปิดตัวฟีเจอร์นี้แล้ว Instagram จะใช้บล็อกเชนของ Polygon สำหรับการสร้าง NFT ซึ่งแอปจะดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์ม OpenSea เพื่อให้สามารถดูชื่อคอลเลกชัน และ คำอธิบายบน Instagram ได้

ทาง Meta จะเริ่มเปิดฟีเจอร์ NFT นี้ให้กับกลุ่มศิลปินที่ได้รับคัดเลือกในการเข้าใช้งานกันก่อน และ จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ฟีเจอร์นี้กันได้ในภายหลัง

ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมทาง Meta นั้นจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในกรสร้างหรือขาย NFT จนถึงปี 2024 เลย แต่ทว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ดูเหมือนว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ App Store อยู่นะ อย่างเช่นเรื่องค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการซื้อขาย NFT ที่ยังเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ของ Apple

ที่มา : decrypt.co , NFT Thailand

credit photo by : Meta

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

Reddit พิสูจน์แล้ว ทำ NFT ให้ปังด้วยการไม่เอ่ยถึง NFT!

Reddit อาจพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการแนะนำโลก Blockchain ให้แก่ผู้คนหมู่มากได้รู้จัก คือการเลี่ยงไม่พูดถึงสิ่งที่ซับซ้อนในเรื่อง Cryptocurrency และ NFT

ก่อนหน้านี้ Reddit ได้วางจำหน่าย Collectible Avatars โดย Reddit ได้ตั้งใจเลี่ยงการใช้คำเฉพาะในวงการ Blockchain เช่นคำว่า crypto และ NFT ในบทความแนะนำตัว Collectible Avatars ของพวกเขา

ผลจากการที่ Reddit เปิดตัวตลาด NFT ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม Pali Bhat CPO ของ Reddit กล่าวว่าผู้ใช้งาน Reddit ได้สร้างกระเป๋าเงิน Crypto กว่า 3 ล้านกระเป๋าซึ่งนี่เป็นจำนวนที่มากกว่าจำนวนกระเป๋าเงินที่ active บน OpenSea ซึ่งมีประมาณ 2.3 ล้านกระเป๋า จากจำนวนนี้จึงบอกได้ว่าการตลาดแบบนี้ของ Reddit อาจช่วยดึงดูดให้ผู้คนซื้อ NFT ครั้งแรก

Reddit ใช้วิธีง่าย ๆ ในการอธิบายถึงตัว Avatar ดิจิตอลและอธิบายว่าจะสามารถเป็นเจ้าของและแลกเปลี่ยนกันได้อย่างไรโดยใช้การอธิบายที่ง่าย NFT ของ Reddit นี้ได้ทำเงินกว่า 6.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากการวิเคราะห์ของ Dune

Reddit อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถซื้อ Avatar ได้ด้วยเงินตราปกติแทนที่จะเป็นเงิน crypto

“Reddit นั้นได้พิสูจน์ให้เห็นว่า Collectible Avatar คือการแนะนำผู้คนสู่ NFT และ cryptocurrency ที่ง่ายต่อการเข้าใจและสนุก” Barney Chambers ผู้ร่วมก่อตั้ง Umbria Network กล่าว และเขาเห็นด้วยที่กลยุทธ์ของ Reddit ที่หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะในวงการ crypto ได้สร้างผลกำไรได้จริง

ผู้ใช้ Reddit จำนวนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นในแพลตฟอร์ม Reddit ว่าการซื้อ Avatar เหล่านี้เป็นการซื้อ NFT ครั้งแรกของพวกเขา

Reddit ได้สร้าง Avatar ที่เป็นทั้งแบบ Limited Edition และแบบที่สามารถซื้อขายได้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ The Creator Collection ที่สร้างโดย creator หลายท่าน ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อและขาย Avatar ได้เป็น NFT บน blockchain Polygon

นอกจากนี้ Reddit ยังได้สร้างกระเป๋าเงิน crypto เรียกว่า Vault ซึ่งทั้งหมดนี้กลยุทธ์การขาย Avatar ของ Reddit ได้สร้างปรากฎการณ์บน blockchain Polygon ในช่วงนี้เลยทีเดียว

ที่มา : the block

credit photo by : the block

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

ผู้ร่วมก่อตั้ง CryptoKities และ Dapper Labs เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ Hollywood WME

Mack Flavelle ผู้ร่วมก่อตั้ง CryptoKitties และ Dapper Labs ได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ WME แห่ง Hollyword

Flavelle ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการ NFT ที่เป็นผู้สร้างกระแส NFT ให้มีชื่อเสียงขึ้นในสมัยที่เขาสร้าง CryptoKitties ที่เป็นซีรี่ย์ของ NFT ที่ให้ผู้คนได้ซื้อ ขยายพันธุ์ และขายตัวการ์ตูนแมว เป็นซีรี่ย์ที่มีมาอย่างยาวนาวภายใต้ blockchain Ethereum ซึ่งเปิดตัวในปี 2017

WME เป็นหนึ่งในเอเจนซี่หาคนที่ทรงพลังที่สุดในอุตสาหกรรมการแสดง หนึ่งในนักแสดงจาก Hollywood ที่คัดสรรโดย WME เช่น Dwayne “The Rock” Johnson และ Charlize Theron หรือศิลปินดนตรีอย่าง Meek Mill และ Alicia Keys

[Mack Flavelle, courtesy of WME]

การเซ็นสัญญากับเอเจนซี่นั้นหมายถึง Flavelle จะเป็นตัวแทนของเอเจนซี่ บริษัทแม่ของเอเจนซี่นี้คือ Endeavor เป็นเจ้าของ UFC ที่เป็นบริษัทจัดการแข่งขันขี่วัวกระทิงแบบมืออาชีพ และจัดงานแฟชั่นโชว์ซึ่งหมายความว่าเป็นบริษัทที่ทำงานกับลูกค้าที่เป็นคนมีชื่อเสียงมากมายนั่นเอง

ดูเหมือนว่าการลดมูลค่าของ NFT ต่าง ๆ จะไม่ได้ส่งผลกับการให้ความสนใจของธุรกิจด้านนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ WME ได้เซ็นสัญญากับ Bright Moments และ Boss Beauties รวมถึง Escapeplan ที่เป็นคู่ DJ ดูโอของ Bored Ape Yacht Club และ Pixel Vault ที่เป็นบริษัทสื่อ web3 ที่ลงทุนกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในต้นปีนี้

ส่วน Dapper Labs บริษัทจากรัฐ Vancouver เป็นผู้ผลิต NBA Top Shot คอลเลคชั่น NFT ในปี 2020 และ Flavelle เป็นผู้ก่อตั้งและเป็น CEO ของ Big Head Club ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการสตูดิโอ NFT ครบวงจรที่ซึ่งผลิตผลงานคอลเลคชั่นที่มีชื่อเสียง เช่น Stoner Cats และ Germinations โดยศิลปิน Jim Carrey

 

ที่มา : the block

credit photo by : the block

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

Meta ร่วมมือ Microsoft นำเกมและแอปสู่แพลตฟอร์ม Quest

เมตา ประกาศตัวเป็นพันธมิตรร่วมกับไมโครซอฟท์ โดยฝ่ายหลังจะรับหน้าที่พัฒนาแอปพลิเคชันจำนวนมากลงสู่แพลตฟอร์ม Quest ของเมตา

ที่งาน Meta Connect ซึ่งจัดขึ้นในช่วงดึกของวันที่ 11 ตุลาคมตามเวลาประเทศไทย เมตา ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกับไมโครซอฟท์ โดยยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ จะรับหน้าที่พัฒนาแอปพลิเคชันไม่ว่าจะเป็น Microsoft Teams, Xbox Cloud Gaming และอื่นๆ อีกมากมายลงสู่แพลตฟอร์ม Quest ของเมตา

สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ทีมงานของไมโครซอฟท์ จะทำงานร่วมกับเมตา ในการผสานนำเอาแอปพลิเคชันจากไมโครซอฟท์ ลงสู่แพลตฟอร์ม Quest

ซีอีโอไมโครซอฟท์ กล่าวต่อไปว่า ไมโครซอฟท์ต้องการนำเอาประสบการณ์การประชุมที่สมจริงของ Microsoft Teams มาสู่ Meta Quest เพื่อให้ผู้คนได้มีวิถีใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อถึงกัน

พร้อมกันนี้ จากความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และเมตา และการใช้งานผ่าน Microsoft Teams คุณก็จะได้ทั้งการเชื่อมต่อ แบ่งปัน และทำงานร่วมกัน ราวกับว่ากำลังอยู่ด้วยกันแบบเห็นหน้าค่าตา

ในส่วนการใช้งาน Microsoft 365 สัตยา นาเดลลา กล่าวในตอนท้ายว่า การมาของ Microsoft 365 บนแพลตฟอร์ม Quest นั่นหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถตอบโต้ (Interact) กับแอปพลิเคชันอย่าง Words, Excel, Powerpoint และ Outlook ได้อีกด้วย เพียงแต่ว่าแอปเหล่านี้ อาจยังไม่ใช่แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมาสำหรับ Quest โดยเฉพาะ แต่อยู่ในรูปแบบของเว็บแอป (Web Apps)

นอกจากนี้ สัตยา กล่าวเสริมด้วยว่า ไมโครซอฟท์กำลังคิดและหาแนวทางที่จะนำความสามารถของ Microsoft 365 และ Windows 365 มาลงสู่พื้นที่สามมิติ (3D) เพื่อช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน, ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ในรูปแบบใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

ในด้านการทำงานร่วมกับครั้งนี้ของเมตาและไมโครซอฟท์ ได้เกิดคำถามขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า ถึงที่สุดแล้ว ไมโครซอฟท์ได้ยกเลิกแนวทางการพัฒนา HoloLens ไปแล้วหรือไม่ โดยในช่วงที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ปฏิเสธข่าวนี้ แต่ในเวลาไม่นาน อเล็กซ์ คิปแมน ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการ HoloLens ลาออกจากบริษัทไป หลังตกเป็นข่าวว่ามีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม

สำหรับไมโครซอฟท์ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสนใจเมตาเวิร์ส เพียงแต่แนวทางของไมโครซอฟท์ที่มีต่อโลกเสมือนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนนัก แม้จะมีแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า Mesh เปิดตัวออกมาแล้วก็ตาม

ที่มา : techcrunch

credit photo by :  Meta

credit Youtube : CNET Highlights

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

TERA Classic SEA เตรียมเปิดทดสอบ CBT 19-23 ตุลาคมนี้

"TERA Classic" เกมมือถือ MMORPG

TERA Classic SEA เกมแนว MMORPG Open-World ที่พัฒนามาจาก IP ชื่อดังสุดคลาสสิคอย่าง TERA Online โดย PlayPark พร้อมเปิดให้เข้าร่วมทดสอบเกมช่วง CBT วันที่ 19 – 23 ตุลาคมนี้ บน Google Beta Testing ในรูปแบบเซิร์ฟเวอร์ SEA ครอบคลุมทั้ง 11 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวเกมรองรับ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน และภาษาบาฮาซา สำหรับผู้ใช้งาน iOS สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าบน App Store เพื่อรับของรางวัลไอเทมเมื่อเกมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ได้ที่ https://teraclassic.playpark.com/PreregisNow

รายละเอียดการเปิดทดสอบช่วง CBT

– ระยะเวลาเปิดทดสอบ 19 ตุลาคม เวลา 12.00 น. – 23 ตุลาคม เวลา 23.59 น.
– เปิดทดสอบบนระบบ Google Beta Testing เท่านั้น!
– ผู้เล่นที่เติมเงินในช่วง CBT จะได้รับเงินคืนเมื่อเกมเปิด OBT อย่างเป็นทางการ
– หลังเสร็จสิ้นช่วงทดสอบข้อมูลเกมทั้งหมดจะถูกรีเซ็ต

ผู้ที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับของรางวัลพิเศษ และเข้าร่วมแคมเปญ “TERA Classic SEA [Triple War]” เพื่อลุ้นรับรางวัลใหญ่ Asus ROG Flow Z13 และ ROG Phone รวมมูลค่ามากกว่า 100,000 บาท ได้ที่ https://bit.ly/3Sma1q7 ติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ที่ https://teraclassic.playpark.com และแฟนเพจ PlayPark Tera Classic SEA

 

ที่มา : thisisgamethailand

credit photo by : thisisgamethailand

credit Youtube : PlayPark

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

The Super Mario Bros. Movie ตัวอย่างแรกมาแล้ว! เข้าฉายเมษายน 2023

ภาพยนตร์ Super Mario Bros.

จาก Illumination และ Nintendo มาสู่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในอเมริกาเหนือในวันที่ 7 เมษายน 2023 และในญี่ปุ่นในวันที่ 27 เมษายน 2023

กำกับการแสดงโดย Aaron Horvath และ Michael Jelenic (ผู้ทำงานร่วมกันใน Teen Titans Go!, Teen Titans Go! To the Movies) จากบทภาพยนตร์โดย Matthew Fogel (The LEGO Movie 2: The Second Part, Illuminations’s Minions: The Rise of Gru)

ให้เสียงพากย์โดย Chris Pratt ให้เสียงเป็น Mario, Anya Taylor-Joy ให้เสียงเป็น Princess Peach, Charlie Day ให้เสียงเป็น Luigi, Jack Black ให้เสียงเป็น Bowser, Keegan-Michael Key ให้เสียงเป็น Toad, Seth Rogen ให้เสียงเป็น Donkey Kong, Fred Armisen ให้เสียงเป็น Cranky Kong, Kevin Michael Richardson ให้เสียงเป็น Kamek และ Sebastian Maniscalco ให้เสียงเป็น Spike

ภาพยนตร์เรื่องนี้ผลิตโดย Chris Meledandri ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Illumination และโดย Shigeru Miyamoto สำหรับ Nintendo ภาพยนตร์เรื่องนี้จะร่วมทุนโดย Universal Pictures และ Nintendo และเผยแพร่ทั่วโลกโดย Universal Pictures

ที่มา : universalpictures

credit photo by : thesupermariobros.movie

credit Youtube : Illumination

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

กระทรวงการคลังแห่งสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดตัวสำนักงานใหญ่ใหม่…ใน Metaverse

การประกาศดังกล่าวมาจากGulf Newsหลังจากอับดุลลา บิน ตูก อัล มาร์รี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยระหว่างการประชุม Metaverse ของดูไบ “นี่ไม่ใช่การพิสูจน์แนวคิด แต่เป็นที่อยู่ที่สามของเรา” เขาบอกกับที่ประชุมก่อนที่จะไปทัวร์สำนักงานใหญ่เสมือนจริงแห่งใหม่

สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ตั้งอยู่ในอาคารหลายชั้นซึ่งแต่ละชั้นมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ผู้เยี่ยมชมสามารถรับตั๋วที่จะแจ้งให้ “พนักงานศูนย์ความสุขของลูกค้า” เข้าร่วมประสบการณ์ Metaverse และสื่อสารกับผู้เยี่ยมชม

สำนักงานใหญ่ Metaverse จะเป็นส่วนเสริมของสำนักงานทางกายภาพสองแห่งของกระทรวงในดูไบและอาบูดาบี ทำให้กระทรวงสามารถให้บริการดิจิทัลเป็นส่วนที่ใหญ่ขึ้นและมีความสำคัญมากขึ้นในการดำเนินงานหลังจากได้รับคำสั่งจากผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ผู้เยี่ยมชมที่กำลังเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่เสมือนสามารถลงนามในเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งทำให้ความจำเป็นที่ล้าสมัยสำหรับผู้ที่ไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่งของกระทรวงเพื่อจัดเตรียมลายเซ็น 

สำนักงานใหญ่เสมือนยังมีหอประชุมซึ่งใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการประชุมเสมือนจริง ตลอดจนกิจกรรมและห้องประชุมอื่นๆ ที่ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอได้ 

ที่มา : beyondgames

credit photo by : Ahmed Ramzan/Gulf News

credit Youtube : Gulf News

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

Tesla เปิดตัว Optimus หุ่นยนต์ Humanoid ในงาน AI Day 2022

หุ่นยนต์ humanoid ตัวแรกของบริษัท Tesla

Elon Musk เปิดตัวหุ่นยนต์หน้าตาแบบมนุษย์ (humanoid robot) ตัวแรกของบริษัท Tesla ใช้ชื่อว่า Optimus

จุดเด่นของ Optimus คือใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลตัวเดียวกับ Autopilot ที่ใช้ในรถยนต์ของ Tesla ทำให้มันสามารถแยกแยะวัตถุต่างๆ ในระดับเดียวกัน ในตัวอย่างที่โชว์บนเวที หุ่นยนต์ตัวนี้ “มอง” เห็นบัวรดน้ำ และแยกแยะได้ว่าต้องจับหูเพื่อเดินไปรดใส่ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ส่วนหน่วยประมวลผลของหุ่นยนต์เป็น Tesla SoC แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์เช่นกัน

Elon บอกว่าเดโมของ Optimus ครั้งนี้เป็นการทำงานอัตโนมัติทั้งหมด ไม่ต้องใช้ตัวช่วยควบคุมจากภายนอกเลย เขาบอกว่ามีแผนจะผลิตหุ่นยนต์ลักษณะนี้ขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาไม่น่าจะเกินตัวละ 20,000 ดอลลาร์ (ราว 7.5 แสนบาท) เมื่อวางขายจริง

 

 

ที่มา : The Verge, blognone

credit photo by : Tesla

credit Youtube : Tesla, The Verge

ยังไม่ระบุตำแหน่ง