เจ้าของกิจการยิมตั้งเป้าหมายนำ NFT มาใช้กับระบบสมาชิกฟิตเนส

เจ้าของกิจการยิมตั้งเป้านำ NFT มาใช้กับการเป็นสมาชิก โดยมีสิทธิพิเศษให้มากมาย หวังแก้ปัญหาที่อุตสาหกรรมฟิตเนสที่กำลังเผชิญอยู่
 
โมเดลที่ใช้ NFT สำหรับการเป็นสมาชิกฟิตเนสนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่และน่าสนใจ นอกจากสิทธิในการเป็นสมาชิกของยิมที่เจ้าของ NFT จะได้รับแล้ว ยังได้รับส่วนลดสำหรับบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายอีกด้วย เช่น ส่วนลดอาหารเสริม , เทรนเนอร์ส่วนตัว และอุปกรณ์ต่างๆ
 
Deni Zulic ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Global Fit Club ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฟิตเนสนั้นกล่าวว่าจะเตรียมเสนอการเป็นสมาชิกผ่าน NFT กันในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการฟิตเนสแบบเต็มรูปแบบ โดยที่ทาง Global Fit Club ได้ร่วมมือกับศูนย์ออกกำลังกายที่มีชื่อเสียงอย่าง Anytime Fitness และ F45 Training
 
แนวคิดนี้เริ่มขึ้นจากการสำรวจและมองเห็นปัญหาอย่างหนึ่งของการเป็นสมาชิกฟิตเนสที่สมาชิกจะต้องจ่ายค่าสมาชิกในทุกๆ เดือน แถมยังมีแพ็กเกจที่ยิ่งสมัครสมาชิกนานๆ ราคารายเดือนที่ต้องจ่ายก็จะถูกลง
 
แต่ปัญหาคือบางคนเมื่อสมัครไปแล้ว แทบไม่มีเวลาได้เข้าไปฟิตเนสเลย ทำให้ค่าสมาชิกที่ต้องจ่ายไปนั้น ก็เสียไปแบบฟรีๆ แถมยังไม่สามารถเอาไปขายต่อให้คนอื่นได้ด้วยนะ
 
โดย Deni Zulic เชื่อว่าแนวคิดการนำ NFT มาใช้กับบริการของฟิตเนสจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยที่สมาชิกเพียงแค่ซื้อ NFT ที่ราคาพื้นครั้งเดียวไปเลย แล้วก็สามารถใช้สิทธิในบริการของฟิตเนสได้ตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกก็เพียงแค่ขายต่อ NFT ไปให้กับคนอื่นที่ต้องการก็เท่านั้นเอง
 
การทำแบบนี้จะทำให้ NFT เปรียบเสมือนสินทรัพย์อย่างนึงเลยด้วย เพราะว่าหากมีคนต้องการเยอะ ราคาของ NFT ก็จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามความต้องการ ทำให้ผู้ถือนอกจากจะได้เข้าถึงบริการของฟิตเนสแล้ว ยังมีโอกาศได้กำไรจากการถือ NFT อีกด้วย
 
อีกทั้งแพลตฟอร์ม Global Fit Club ยังมีแผนจะจูงใจให้ผู้ใช้ออกกำลังกายกันมากขึ้น ด้วยการสร้างรายได้ให้กับผู้ถือ NFT เมื่อออกกำลังนั้นเอง อารมณ์น่าจะคล้ายๆ Exercise to Earn นั้นเอง

ที่มา : NFT Thailand, cointelegraph

credit photo by : fitnesstime

ยังไม่ระบุตำแหน่ง

LINE เปิดตัวตลาด NFT ในแพลตฟอร์ม DOSI

หน่วยโทเค็นที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ (NFT) ของแอพส่งข้อความภาษาญี่ปุ่น  LineNext กล่าวเมื่อวันอังคารว่าได้เปิดตัวตลาดผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค (C2C) บนแพลตฟอร์ม  NFT DOSI บริการซื้อขาย C2C ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขาย NFT ได้ทั่วโลก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น 

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ Line กล่าวว่ามีแผนจะเปิดตัวบริการ NFT ในปี 2565 เพื่อจัดหาตลาดสำหรับบริษัทและบุคคลเพื่อซื้อขาย NFT 

บริษัทกล่าวว่าใครๆ ก็ซื้อขาย NFT ได้อย่างง่ายดายบนแพลตฟอร์ม DOSI ซึ่งมีขั้นตอนการทำธุรกรรมที่ง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนDOSI Wallet และเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชีโซเชียลมีเดีย รวมถึง LINE, Facebook และ Google โฆษกของ LineNext กล่าว เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน DOSI กับMetaMaskซึ่งเป็นกระเป๋าเงินเข้ารหัส Ethereum พวกเขาสามารถซื้อหรือขาย NFT ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ผู้ใช้สามารถชำระเงินด้วย Ethereum, บัตรเครดิต, Naver Pay และอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยน NFT LineNext วางแผนที่จะเพิ่มสินทรัพย์ crypto และบริการชำระเงินมือถือในแต่ละประเทศ 

บริษัทอ้างว่า DOSI ได้รวบรวมคะแนนของผู้ใช้จาก 180 ประเทศ ยกเว้นญี่ปุ่น และออกกระเป๋าเงิน DOSI มากกว่า 100,000 รายการพร้อมสมาชิก NFT 170,000 รายการตั้งแต่เปิดตัวบริการเบต้าในเดือนกันยายน บริษัท วางแผนที่จะเปิดตัวเวอร์ชันอย่างเป็นทางการในปีนี้โฆษกกล่าว บริการสมาชิกพลเมืองของ DOSI ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคะแนนการเป็นสมาชิกที่เรียกว่า DON โดยการเข้าร่วมในกิจกรรมชุมชน NFT หรือซื้อ NFT ของพวกเขา 

LineNext ได้เปิดตัวโครงการ NFT ที่ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ รวมถึงเจ้าพ่อสื่อเกาหลี CJ ENM และบริษัทแม่ Naver บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการ NFT เพิ่มเติมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ NFT คุ้นเคยกับผู้ใช้มากขึ้นในอนาคต 

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ NFT รูปแบบใหม่สำหรับผู้ใช้” Youngsu Ko ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LineNext กล่าวในแถลงการณ์ “ไม่ใช่แค่การลงทุนหรือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ สำหรับเรา DOSI คือการสร้างกองทุน NFTs และใช้งานง่าย สร้างประโยชน์สำหรับผู้ใช้ของเราและสร้างชุมชน” 

LineNext ซึ่งมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้บอกกับ TechCrunch เมื่อปีที่แล้วว่าค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเป็นแหล่งรายได้หลัก สำนักงานในสหรัฐฯ ของ LineNext จัดการ DOSI แพลตฟอร์ม NFT ทั่วโลก ในขณะที่สำนักงานในเกาหลีดำเนินการผลิตภัณฑ์บล็อคเชนของ Line

ที่มา : techcrunch

credit photo by : LineNext แพลตฟอร์ม NFT ของ LineNext DOSI

ยังไม่ระบุตำแหน่ง